Green Tea
ในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่มหรืออาหารหวาน ชาเขียวก็ชอบเป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่ถูกนำเอามาประดิษฐ์ในเมนูอาหารต่างๆอยู่ตลอด พวกเรามั่นใจว่าคนไม่ใช่น้อยคงจะเคยรับรู้ชื่อ ชาเขียวมัทฉะมาก่อนจากรายการอาหารเครื่องดื่มยอดฮิต อย่างมัทฉะลาเต้ หรือก็คือชาเขียวเข้มข้นที่ชงผสมนมสด ให้รสกลมกล่อมละมุนละไมหวานมัน ซึ่งชาเขียวมัทฉะ นี้ยังนิยมใช้กันในรายการอาหารเบเกอรี่หลายหมวด อาทิเช่น คุกกี้, ขนมเค้ก, ทาร์ต, พุดดิ้ง, ไอศกรีม ฯลฯ แต่ว่านอกเหนือจากมัทฉะและจากนั้นก็ยังมีชาเขียวประเภทฯลฯที่น่าดึงดูดไม่แพ้กันเลย
พวกเราจะไปทำความรู้จักกับชาเขียว ในแบบที่ลึกซึ้งเพิ่มขึ้น รวมทั้งทำความเข้าใจถึงความไม่เหมือน ของชาเขียว ว่าอะไรที่ทำให้เกิดอาการชาเขียวแต่ละประเภทมีกลิ่น สี แล้วก็รสที่แตกต่าง PG SLOT
ในใบชาเขียวมีสารอาหารที่มี ผลดีเยอะแยะ อาทิเช่น สารค้างเทสิน (Catechin) ซึ่งมีการค้นคว้าจำนวนมากออกมาการันตีแล้วว่ามีฤทธิ์สำหรับเพื่อการช่วยยั้ง อนุมูลอิสระที่เป็นเยี่ยมในต้นสายปลายเหตุ ของการเกิดโรคมะเร็งได้หลายประเภท อย่างโรคมะเร็งผิวหนัง, โรคมะเร็งปอด, โรคมะเร็งเต้านม, โรคมะเร็งกระเพาะ, โรคมะเร็งตับ, โรคมะเร็งไส้, โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ฯลฯ ทั้งใบชาเขียวยังเต็มไปด้วยสารกรุ๊ปโพลิฟีนอล (Polyphenols) ที่มีคุณลักษณะต้านทานอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว รวมทั้งการเกิดร่องรอยเหี่ยวย่นหรือจุดด่างดำได้อีกด้วย
นอกนั้น จากการเรียนยังพบว่า การดื่มชาเขียวเสมอๆมีส่วนช่วย ลดจังหวะการเกิดเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลรวมทั้ง ระดับอินซูลินในเลือด รวมทั้งลดคอเลสเตอรอลประเภท LDL ซึ่งเป็น คอเลสเตอรอล ไม่ดีที่เป็นต้นเหตุของโรคหัวใจแล้วก็เส้นโลหิต อย่างไรก็ดี แนวทางการดื่มชาเขียวให้กำเนิดคุณประโยชน์แก่ร่างกายนั้น ก็จะต้องเป็นชาเขียวที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติด้วยน้ำตาลหรือครีมนมอะไรก็แล้วแต่รวมทั้งคนที่มีปัญหาด้านการนอน ก็ไม่สมควรดื่มชาเขียว เพราะเหตุว่าในชาเขียวนั้นมีสารคาเฟอีนที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท อาจส่งผลให้กำเนิดอาการนอน ไม่หลับหรือความกังวลได้เช่นเดียวกัน
กระบวนการเลือกชาเขียวนั้นชอบมองที่จำพวกของใบชาเป็นหลัก แม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์เดียวกัน แต่ว่าด้วยแนวทางเพาะปลูกที่แตกต่างกัน รวมทั้งผ่านแนวทางการผลิตที่แตกต่าง ก็ล้วนสามารถมีผลต่อรสและก็ความเข้มข้นของชาเขียว
ญี่ปุ่นเป็นแหล่งผลิตชาเขียวที่โด่งดังมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวเกรดพรีเมียมไปจนกระทั่งชาเขียวธรรมดาก็ล้วนมีการเพาะปลูกกันอย่างมากมาย ชาเขียวประเทศญี่ปุ่นที่พวกเรารู้จักอาจมีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อ แต่ว่าจำพวกสำคัญๆของชาเขียวนั้นสามารถแบ่งได้ดังนี้
• เกียวคุโระ (Gyokuro) ชาเขียวชั้นเยี่ยมรสเข้มข้น
ถ้าเกิดกล่าวถึงชาเขียวประเทศญี่ปุ่นที่คุณภาพดีที่สุด แน่ๆว่าจะต้องระลึกถึงชาเขียวเกียวคุโระ ความพรีเมียมของชาเขียวประเภทนี้อยู่ที่ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวรวมทั้งดัดแปลงใบชา เพื่อได้มาซึ่งชาเขียวที่มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อมละมุนละไมที่สุดนั่นเอง ประสิทธิภาพของชาเขียวเกียวคุโระนั้นเริ่มตั้งแต่ การดูแลเพาะปลูก โดยต้นชาเขียวจะถูกอุปการะในร่ม ด้วยการใช้ผ้าที่เอาไว้คลุมร้องไห้ เพื่อควบคุมจำนวนแดดที่ตกกระทบใบชา การควบคุมจำนวนแสงสว่างนี้จะมีผลให้ใบชามีสาร L-Theanine (แอล-ธีอะนีน) ซึ่งมีคุณลักษณะช่วยหัวข้อการบรรเทามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งชาก็จะมีรสชาติขมลดลง สามารถกินได้เรื่อย
เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว ใบชาจะถูกนำไปนึ่ง นวด แล้วก็ทำให้แห้ง ลักษณะใบชาที่ได้จะมีสีเขียวเข้มสวยแล้วก็ม้วนเป็นเกลียว เมื่อผ่านการชงจะได้ชาเขียวที่มีสีเขียวผ่องใส คล้ายกับยอดอ่อนใบชา รสของชาเขียวเกียวคุโระจะมีความกลมกล่อม ติดหวาน เกือบจะไม่หลงเหลือความฝาดเลย และก็เพราะเป็นใบชาที่เก็บเกี่ยว ได้ในจำนวนน้อยในแต่ละฤดู ราคาของชาเขียวเกียวคุโระก็เลยสูงตามไปด้วยนั่นเอง
• เซนฉะ (Sencha) ชาเขียวรสติดฝาด PGSLOT
ชาเขียวมากยิ่งกว่าครึ่งในตลาดชาเขียวประเทศญี่ปุ่นล้วนเป็นชาเขียวเซนฉะ เนื่องด้วยสามารถผลิตได้จำนวนไม่ใช่น้อย ทำให้แพงไม่สูงเท่าไรนัก เซนฉะก็เลยเป็นชาเขียวที่นิยมดื่มกันโดยปกติ ด้านรสก็ขึ้นกับ กรรมวิธีการผลิตแล้วก็กรรมวิธีการชง ต้นชาเขียวที่เอามาดัดแปลงเป็นเซนด้วยเหตุดังกล่าวมี การเพาะปลูกให้ได้รับแสงแดดตามธรรมดา และก็เริ่มเก็บเกี่ยวในระยะแรกหรือตอนลำดับที่สองของปี
กระบวนการผลิตใบชาเซนฉะ จะมีความคล้ายกับการสร้างใบชาเกียวคุโระ โน่นเป็นใบชาจะถูกนำไปนึ่ง นวด รวมทั้งอบแห้ง หรือบางแหล่งก็บางทีอาจใช้กรรมวิธีตากแห้ง รสของชาเขียวเซนฉะก็เลยขึ้น อยู่กับวิธีทำให้แห้งนี้เอง รวมทั้งอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ชงชาเซนฉะก็มีส่วนทำให้ได้ รสต่างกันออกไป สีของชาเขียวเซนฉะมีความเข้ม กว่าชาเขียวเกียวคุโระ ทั้งยังยังมีความฝาดและก็ความขมมากยิ่งกว่า นอกจากนั้น เซนฉะยังนิยมเอาไปใช้ประกอบกิจการทำชาเขียวประเภทอื่นๆได้แก่ เกนไมฉะ (ชาผสมข้าวคั่ว) หรือโฮจิฉะ (ชาเขียวคั่วสีน้ำตาล) อีกด้วย
• บันฉะ (Bancha) ชาเขียวรสอ่อน
บันฉะเป็นชาเขียวที่จัดว่ามีคุณภาพ ด้อยกว่าชาเขียวประเภทอื่นๆเพราะว่าใบชาที่ใช้นั้นได้มาจากการเก็บเกี่ยวนอกฤดูกาล บางทีอาจเป็นช่วงๆลำดับที่สามหรือสี่ของปี โดยเป็นใบชาที่เหลือจากยอดต้นชาก่อนต้นชาจะแตกยอดใหม่ หรือใบชาที่มิได้มาตรฐานของเซนฉะหรือเกียวคุโระนั่นเอง ทดลองเล่นสล็อตฟรี
ซึ่งใบชาพวกนั้นก็จะผ่านกรรมวิธีการผลิต รวมทั้งดัดแปลงนาๆประการ เมื่อชงออกมาชาจะมีสีค่อนข้างจะอ่อน รสติดฝาดรวมทั้งมีรสอ่อนกว่าเซนฉะ แม้ว่าจะมีกลิ่นหอมสดชื่นของชาเขียวอยู่บ้างแต่ว่าก็ไม่หอม เป็นเอกลักษณ์อย่างชาเขียวเกียวคุโระ แม้กระนั้น ใบชาเขียวบันฉะก็นิยมนำไป ดัดแปลงแก้ไขทำเป็นรายการอาหารชาเขียวอื่นๆได้เหมือนกันกับใบเซนฉะ เป็นต้นว่า เกนไมฉะ แล้วก็โฮจิฉะ ที่เป็นใบชาที่ผ่านการคั่ว โดยจะมีสีน้ำตาลและก็กลิ่นคั่วหอม
• มัทฉะ (Matcha) ชาเขียวรสกลมกล่อมละมุนละไม กลิ่นหอมสดชื่นหวาน
ชาเขียวมัทฉะ อาจพูดได้ว่าเป็นชาเขียว ยอดนิยมสูงสุด เพราะมีรสชาติ กลิ่น สี และก็คุณลักษณะซึ่งสามารถนำไปทำเมนูอาหารและก็เครื่องดื่มได้ หลายชนิด ความต่างจากชาเขียวประเภทอื่นที่ทำให้มีอาการชาเขียวมัทฉะเป็นเอกลักษณ์มันก็คือ แนวทางการผลิต ที่กว่าจะได้ออกมาเป็นผุยผงชาเขียวเนียนละเอียดอย่างที่พวกเรามองเห็นกัน
โดยมัทด้วยเหตุผลดังกล่าวสร้างจากเท็นฉะ (Tencha) ซึ่งได้มาจากใบชาเขียวที่ปลูก ในร่มราวกับอย่างเกียวคุโระ แต่ว่าแทนที่จะนำไปผ่านขั้นตอนการผลิตเสมือนชาเขียวประเทศญี่ปุ่นจำพวกอื่นๆเท็นฉะที่เก็บเกี่ยวแล้วจะถูกนำไป นึ่งรวมทั้งทำให้แห้ง แล้วหลังจากนั้นก็บดใบชาอย่างถี่ถ้วนด้วย ครกหินประเทศญี่ปุ่นที่เรียกว่า อิชิอุสุ กระทั่งใบชาละเอียดได้เป็นผุยผงมัทฉะ ซึ่งความละเอียดรอบคอบนี้ยังรวมถึงขั้นตอนของการชงชาเขียวมัทฉะอีกด้วย
การชงมัทด้วยเหตุนี้จำต้องอาศัยเครื่องมือที่เรียกว่า ฉะเซ็น ซึ่งเป็นแปรงไผ่สำหรับชงชาเขียวมัทฉะโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นก็มีพิธีการชงชา “ซะโด” อันเป็นวัฒนธรรมเริ่มแรกที่ แสดงการชงชามัทฉะอย่างละเอียดลออ เพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญ หรืองานพิธีการต่างๆยิ่งชงได้อย่างชำนาญ ชาก็จะยิ่งออกมารสดีตามไปด้วย ชาเขียวมัทฉะเป็นชาเขียวที่มีรสชาติกลมกล่อมละมุนละไมแล้วก็กลิ่นหอมหวนหวาน เมื่อผสมกับนมก็จะได้รสที่นุ่มนวลพอดี ลดความฝาดได้อย่างดีเยี่ยม
ชาเขียวมีประโยชน์จำนวนมากต่อสุขภาพร่างกาย ทั้งยังช่วยลดการเกิดเซลล์ของโรคมะเร็ง ลดการเกิดเบาหวาน โรคหัวใจแล้วก็เส้นเลือด รวมทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอความแก่อีกด้วย ยิ่งเป็นชาเขียวจากธรรมชาติที่ถูกคัดสรรมาอย่างยอดเยี่ยมก็จะมีสารอาหารที่มีคุณประโยชน์อย่างเต็มเปี่ยม ในเวลาเดียวกันผู้ซื้อก็ได้ประทับใจกับ รสกลมกล่อมละมุนละไมของชาเขียวที่มีคุณภาพ แม้กระนั้น ก็ควรจะดื่มในจำนวนที่สมควรหรือราว 1 – 2 ครั้งต่อวัน และไม่ควรจะดื่มต่อเนื่องกันทุกเมื่อเชื่อวัน เพื่อร่างกายที่แข็งแรง
บทความอื่นที่น่าสนใจ[ รองเท้าผ้าใบ NIKE ]
อัพเดทล่าสุด : 26 มิถุนายน 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021)