แนะนำ เปาบุ้นจิ้น เปาบุ้นจิ้นเป็นบุคคลมีตัวตนจริง เป็นคนดีที่น่าทึ่งน่าเรียนรู้คนหนึ่ง ส่งผลงานเลิศหลายประเภทควรจะยกย่อง ที่รู้จักกันไปทั่วเป็น “ความซื่อสัตย์” ก็เลยขอกลับปูมเปาบุ้นจิ้นที่น่าดึงดูดบางแง่มาเสนอ อีกทั้งในด้านความเป็นจริงและก็นิยายให้อ่านสนุกสนานๆได้อีกทั้งวิชาความรู้ ความเพลิดเพลิน แล้วก็แง่คิดไปร่วมกัน เปาบุ้นจิ้นตัวจริงหน้าขาว เปาบุ้นจิ้นเป็นผู้สืบสกุลรุ่นที่ 35 ของเซินเปาซูวีรชนจีนร่วมยุคกับไซซี กำเนิดเมื่อ พุทธศักราช 1542 ถึงแก่เสียชีวิตเมื่อ พุทธศักราช 1605 อายุ63 ปี (ป่าช้าของเปาบุ้นจิ้นอยู่ที่อำเภอเหอเฝย เขตอานฮุย เป็นสถานที่เที่ยวแห่งหนึ่งของจีน) ชีวิตราชการอยู่ในรัชสมัยพระผู้เป็นเจ้าซ่งเหญินควรซือครองราชสมบัติ ตอน พุทธศักราช 1543-1606 นับเป็นเจ้าขุนมูลนายคู่พระบารมี เรื่องย่อ kingdom
เปาบุ้นจิ้นมีผู้สืบตระกูลมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ เปาอี้ว์กัง (พุทธศักราช 2461-2534) ซึ่งเป็นบุคคลคนดังคนหนึ่งของจีนในปัจจุบันเป็นผู้สืบสกุลรุ่นที่ 29 ของเปาบุ้นจิ้นหนังสือนามานุกรมบุคคลสำคัญของจีนของสถานที่พิมพ์ต้องหัวซึ่งเป็นที่รู้จักมานาน บันทึกเรื่องของเปาบุ้นจิ้นไว้อย่างคร่าวๆว่า “เปาจิ้น” เป็นคนกรุงเหอเฝย (เมืองหับปุ๋ยในเรื่องสามก๊ก เดี๋ยวนี้อยู่ในบริเวณอานฮุย) สอบได้ชั้นจิ้นสื้อ แล้วใส่เป็นบุคลากรวิภาควิจารณ์ศาลฎีกา ถัดมาเป็นนายอำเภอเจี้ยนชาง ยุคพระผู้เป็นเจ้าซ่งเหญินต้อง เป็นราชบัณฑิตประจำราชบรรณาลัย บริวารเมืองไคเฟิง แล้วด้อยกว่าอัครมหาเสนาบดี เปาจิ้นเจ้าหน้าที่รัฐอดทนเอาจริงเอาจัง ราชวงศ์และก็ขันทีจำเป็นต้องหดมือให้ (หวาดหวั่น) ผู้ได้ยินชื่อกลัวเกรง หากแม้หญิงประชาชนและก็เด็กๆก็รู้จักเกียรติศักดิ์ดี เรียกท่านว่า “ท่านเปาคนรับตอบสนองพระบรมราชโองการ” ในเมืองหลวงพูดกันว่า “สินบนเข้าไม่ถึงยมราชเปา” ตำแหน่งในที่สุดของเปาบุ้นจิ้นเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กระทรวงพิธีกรรม เมื่อถึงแก่กรรมแล้วได้รับพระราชทานสมัญญาว่า “เซี่ยวซู่-ผู้เคร่งขรึมรู้บุญคุณ”
เปาจิ้นมีนิสัยแข็งกร้าวขวานผ่าซาก คนอัลธพาลนับถือจำเป็นต้องหันมาประพฤติดีผู้แสดงในนิยายแล้วก็ในงิ้วนิยมเรียกเปาบุ้นจิ้นตามสมญานามชมเชยว่า “เปาชิงเทียน” ชิงเทียน แสดงว่า ฟ้าสีน้ำเงินใส ชิงเป็นสีน้ำเงินของฟ้าที่ไม่มีละอองหมอกฟ้าใสไม่มีไอหมอกเป็นเครื่องหมายของความถ่องเที่ยงตรงเที่ยงธรรม เนื่องมาจากเปาบุ้นจิ้นเป็นผู้รักษาความถูกต้อง คนก็เลยให้ฉายาเชิดชูท่านว่า “เปาชิงเทียน” เป็นผู้กระทำให้ฟ้าเป็นสีน้ำเงินใส ให้ความยุติธรรม โปรโมชั่น สล็อต ภาพยนตร์ชุดเปาบุ้นจิ้นที่เคยเลื่องลือ บ้างก็ตั้งชื่อภาษาจีนตามสมญานามท่านว่า “เปาชิงเทียน” ก็มี เปาบุ้นจิ้นเป็นคนเคร่งขรึมขมักเขม้น ในวัยเด็กก็ไม่ค่อยหยอกเย้าอย่างเด็กทั่วๆไป เมื่อเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยยิ้มหรือหัวเราะให้คนใดมองเห็น
จนกระทั่งกับพูดกันว่าถ้าหากเปาบุ้นจิ้นยิ้มหรือหัวเราะ แม่น้ำฮวงโหซึ่งธรรมดาขุ่นเป็นสีเหลืองอยู่เสมอเวลาถึงกับใสในทันที แม่น้ำฮวงโหใสยากฉันใด เปาบุ้นจิ้นก็ยิ้มยากฉันนั้น คนยิ้มยากหน้าเคร่งขรึมนั้นภาษาจีนเรียกว่า “เหลิ่งเมี่ยน” แสดงว่าหน้าเฉย หน้าเคร่งขรึม ความเที่ยงตรงมองไม่เห็นแก่หน้าคนใดกัน ทำให้คนเรียกว่า “เถี่ยเมี่ยนอู๋ฉิง” หมายความว่า หน้าเหล็กมองไม่เห็นแก่หน้าคนใดกันแน่ลักษณะท่าทางเคร่งขรึมหน้าเฉยและก็นิสัยซื่อสัตย์มองไม่เห็นแก่หน้าผู้ใดนั้น
เมื่องิ้วเล่นใช้สีดำทาหน้าตัวละคร เนื่องจากสีดำเป็นสีที่ความสุจริต แล้วก็แสดงถึงหน้าเคร่งขรึมอีกด้วย ก็เลยเป็นต้นเหตุของตำนานเปาบุ้นจิ้นหน้าดำ เปาบุ้นจิ้น ในละครทีวี ส่วนดวงจันทร์เสี้ยวกึ่งกลางหน้าผากนั้น เป็นเครื่องหมายของแนวทางการทำฟ้าให้แจ่มใสให้ความยุติธรรม รวมทั้งทำให้ผู้แสดงมีลักษณะเด่นเป็นพิเศษ
ตามตำนานเล่าว่าเปาบุ้นจิ้นมีรูปดวงจันทร์เพ็ญอยู่กึ่งกลางหน้าผาก เป็นลักษณะแล้วก็อำนาจที่ได้รับมาจากสรวงสวรรค์ให้ตัดสินโทษของเหล่าผีสางได้ด้วย แต่ว่าเมื่อเล่นงิ้วจะวาดพระจันทร์เต็มดวงมิได้ ด้วยเหตุว่าราวกับเปาบุ้นจิ้นทุกสิ่งทุกอย่างทำให้บรรดาผีรู้สึกว่าเป็นเปาบุ้นจิ้นตัวจริง พากันมาร้องทุกข์จนกระทั่งงิ้วโรงแตกทุกครั้งไป นิทานชาวบ้านเล่าถึงเหตุที่เปาบุ้นจิ้นหน้าดำไว้สนุกสนานมากมายอีกอย่างหนึ่งว่า เมื่อครั้งเทวดาเท้าเปล่าตายลงกำเนิดเป็นพระผู้เป็นเจ้าซ่งเหญินต้องนั้นเพียงพอคลอดปุบก็ร้องไห้ไม่หยุด ด้วยเหตุว่ารู้ว่าภาระหน้าที่ปกครองบ้านเมืองในชาตินี้หนักนัก
เทวดาไท้แป๊ะกิมแชก็เลยมากมายระซิบข้างพระหูว่า “อย่าวิตกกังวลไปเลย เพราะเหตุว่าเง็กเซียงฮ่องเต้เทวบดีได้ให้ดาวบุ๋นเคีชูแช PG SLOT แล้วก็ดาวบู๊เคีชูแชมากำเนิดคู่บุญช่วยราชธุระอยู่แล้ว” พระราชกุมารนั้นก็เลยหยุดร้องไห้ดาวบุ๋นเคีชูแชเป็นดาวปราชญรูปร่างหล่อ ส่วนดาวบู๊เคีชูแชเป็นดาวทหารหน้าดำห้าวหาญ สำหรับเพื่อการตายมาเป็นคู่บุญเทวดาเท้าเปล่าคราวนี้ ดาวบู๊เคีชูแชทราบว่าดาวอิมนึ้งแชจันทรเทวีได้ตายลงไปเป็นนางโปยโปกงจู๊ ลูกสาวของเจ้าผู้ครองนครฮวน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องทำศึกทำสงครามกับจีนวงศ์สกุลซ่ง โปยโปกงจู๊จะได้ของดีเลิศจากคุณครูถึง 8 อย่าง มีฤทธิ์เหนือใครๆทั้งสิ้น เพราะว่าแม้กระทั้งเซียนแต่ละองค์ในภาควิชาโป๊ยเซียนยังได้ของดีเลิศจากคุณครูคนละแบบแค่นั้น
เปาบุ้นจิ้นมีชื่อเสียงที่จีนมากมายนับพันปี เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริง เปาบุ้นจิ้นเป็นเจ้าขุนมูลนายยุควงศ์สกุลซ่ง เรื่องราวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเปาบุ้นจิ้นคงจะหนีไม่พ้นคดีประหารราชลูกเขย รายละเอียดโดยประมาณมีดังนี้ เฉินซื่อเหม่ย บัณฑิตยากจนเข้าสอบรับราชการในเมืองหลวง สอบได้เป็นฟันหยวน (หน้าจอหงวน) แถมโหงวเฮ้งดีเป็นที่ชื่นชอบของฮ่องเต้รวมทั้งองค์หญิง เฉินซื่อเหม่ยตกถังข้าวสารเปลี่ยนเป็นราชลูกเขย สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ เฉินซื่อเหม่ยยังมีลูกภรรยาอยู่ที่บ้านนาคอยเรื่องราวจากเขาอยู่ ฉินเซียงเหลียน เมียของเฉินซื่อเหม่ย รอดูแลรับใช้แม่สามีแล้วก็เรือกสวนไร่ ระหว่างที่เฉินซื่อเหม่ยเดินทางไปสอบรับราชการที่เมืองหลวงทรัพย์สินก็ใช้ไปกับค่าใช้จ่ายในการเรียนค่าพาหนะของเฉินซื่อเหม่ยแทบหมด
เมื่อคาดว่าน่าจะสอบเสร็จสุดแท้แต่มิได้รับเรื่องราวเลยก็เลยกำเนิดสงสัย ได้ก็ควรจะส่งข่าวคราวดีมา มิได้ก็คงจะกลับมาเตรียมสอบใหม่ ตรงกันข้าม เฉินซื่อเหม่ยได้เป็นฟันหยวน แถมได้เป็นราชลูกเขย ลืมลูกลืมภรรยาลืมถิ่นกำเนิดลืมพระคุณไม่คิดกลับไปอยู่ที่บ้านแล้ว ฉินเซียงเหลียนตกลงใจฝากแม่สามีให้เพื่อนบ้านดูแลตนเองแล้วก็ลูกพากันเดินทางอย่างประหยัดเข้าเมือง เมื่อมาถึงเมืองหลวงก็รู้ว่าเฉินซื่อเหม่ยสอบได้ฟันหยวน เป็นบัณฑิตลำดับที่หนึ่งของแผ่นดิน ดีอกดีใจตามมาหาถึงจวน แม้กระนั้นเฉินซื่อเหม่ยทำเนียนไม่ยอมรับไม่เคยรู้ แถมกลัวอดีตกาลกลับมาเป็นหอกข้างแคร่ จ้างมือสังหารไปลอบสังหารฉินเซียงเหลียน รวมทั้งลูกน้อย มือสังหารได้รับใบสั่งไม่รู้เรื่องเหนือทราบใต้ตามสไตล์มือสังหาร
แม้กระนั้นเมื่อมาเจอฉินเซียงเหลียนก็ได้ทราบความสารเลวของเฉินซื่อเหม่ย บอกให้ฉินเซียงเหลียนไปฟ้องท่านเปาที่ศาลไคฟง ตนเองยอมฆ่าตัวตาย (เนื่องจากมิได้ทำตามอย่างหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา) ฉินเซียงเหลียนตีกลองร้องเรียน ท่านเปาก็สืบจนกระทั่งเจอข้อเท็จจริง เรียกเฉินซื่อเหม่ยมารับสารภาพ เฉินซื่อเหม่ยรู้ดีว่าตนเองเป็นถึงราชลูกเขย มีแบ็กอัพดี ไม่กลัวข้อบังคับ อีกทั้งก่นด่าทอแล้วก็ขู่เข็ญเจ้าเปาหน้าดำ เปาบุ้นจิ้นไม่กลัวสั่งถอดขั้นพร้อมสั่งประหารเฉินซื่อเหม่ย ถึงกับขนาดไทเฮาและก็องค์หญิงเข้าห้ามแล้วก็ขู่ แต่ว่าเปาบุ้นจิ้นก็ไม่หวาดกลัว ยินดีเอาตำแหน่งตนเองเข้าแลกเปลี่ยนความเป็นธรรมให้ประชาชน รับรองประหารเฉินซื่อเหม่ย ซึ่งๆหน้าข้อบังคับทุกคนเสมอภาค เปาบุ้นจิ้นตัวจริงในประวัติศาสตร์ได้รับความยำเกรงจากคนจีนตลอดมา ก็เนื่องจากความสัตย์ซื่อและไม่หวาดกลัวอำนาจเจ้าขุนมูลนายและก็ยังรวมทั้งพระเครือญาติ และยังรวมไปถึงองค์ฮ่องเต้ด้วย
ในประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า เปาบุ้นจิ้นเคยยื่นใส่ความ จางเหยาจั่ว บิดาของสนมคนโปรดของฮ่องเต้ซ่งเหรินต้อง เนื่องจากฮ่องเต้ซ่งเหรินต้องเลื่อนฐานะให้จางเหยาจั่วตามคำร้องขอของสนมจนกระทั่งเกินงาม ถึงกับขนาดจะให้มาเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ดูแลท้องพระคลัง เปาบุ้นจิ้นถึงขนาดตั้งที่ประชุมอภิปรายฮ่องเต้ประวัติศาสตร์บันทึกว่า เปาบุ้นจิ้นปรักปรำจางเหยาจั่วที่มีศักดาเท่ากันพ่อตาฮ่องเต้อย่างหนัก ว่าเป็นมารตอนกลางวันวัน เป็นมารสังคม ยิ่งกล่าวยิ่งโกรธ เว็บตรง สล็อต ก้าวเข้าไปกล่าวเฉพาะหน้าหน้าจนถึงน้ำลายเต็มหน้าฮ่องเต้ เป็นการกระทำหาที่ตายชัดๆแต่ว่าท้ายที่สุดฮ่องเต้ซ่งเหรินต้องกลับยอม แล้วก็ทราบดีว่าสำหรับเรื่องชาติบ้านเมืองไม่อาจจะทำอะไรตามเพียงแค่ดวงใจถูกใจได้ แต่ว่าโน่นก็ถือได้ว่าเป็นการเลือกสรรทางออกกันอย่างสงบ สำหรับประเด็นการประหารพระเครือญาติพระตระกูล
ถ้าหากในประวัติศาสตร์จีนจะมีก็เป็นเพราะว่าปัญหาเกี่ยวกับการเมืองแค่นั้น ส่วนปัญหาเรื่องศีลธรรมจรรยาบรรณ หรือข้อบังคับ ที่เจ้าขุนมูลนายจะทำเป็นบ้างก็คือทักท้วงอย่างหมดตัว เสมือนคำขงจื้อเคยว่าไว้ “โทษทัณฑ์ขึ้นไปไม่ถึงผู้ทรงเกียรติจรรยามรรยาทลงไปไม่ถึงชนชั้นแรงงาน” “ศรีริต้า” สลัดลุคจากสาวสวยนางสวรรค์มาเป็น “เปาบุ้นจิ้น” เทวดาผู้ทรงธรรมที่ศาลไคฟง ดวงจันทร์ คางคก กระต่าย แล้วก็นางฟ้า เนื่อเรื่องหนังเรื่องละคร “ประหารราชลูกเขย” เลยจะไปถือเอาจริงเอาจังอาจจะมิได้ แต่ว่าเรื่อง “ประหารราชลูกเขย” ก็มิได้เกิดขึ้นลอยๆและก็ค่อนข้างจะเกิดเรื่องที่ไม่เหมือนอย่างที่คิดพลิกล็อกกันซักหน่อย เรื่องมีอยู่ว่า ในยุครัชสมัยฮ่องเต้ซุ่นจื้อที่วงศ์สกุลชิง ห่างจากสมัยเปาบุ้นจิ้นมากมายว่า 600 ปี มีเจ้าขุนมูลนายคนหนึ่งชื่อว่า เฉินสูเหม่ย เจ้าขุนมูลนายคนนี้มีเมียชื่อ ฉินสินเหลี่ยน
ทั้งสองฯลฯเกิดของเฉินซื่อเหม่ย และก็ฉินเซียงเหลียน ผู้แสดงหลักของเรื่อง“ประหารราชลูกเขย” แม้กระนั้น เฉินสูเหม่ย เป็นเจ้าขุนมูลนายที่ซื่อตรง ไม่อ้อมค้อมไม่เห็นแก่ใคร ที่จริงมีลักษณะท่าทางใกล้เปาบุ้นจิ้น มากยิ่งกว่าราชลูกเขยแสนหยาบช้าเสียอีก แม้กระนั้นด้วยความเที่ยงตรงเสมือนเปาบุ้นจิ้นนี่แหละ ที่ทำให้เฉินสูเหม่ยก้าวหน้าในหน้าที่เจ้าขุนมูลนาย แต่ว่ามักผิดใจกับคนที่อยู่รอบข้างอยู่เนืองๆรวมทั้งสหายสองผู้ที่ชื่อ ฉิวเมิ่งหลิน หูเมิ่งเตี๋ย เพื่อนเก่าทั้งคู่มาขอให้เฉินสูเหม่ยช่วยใส่ให้ตัวได้เป็นเจ้าขุนมูลนาย
ปรากฏว่าเฉินสูเหม่ยไม่เอาด้วย ฉิวเมิ่งหลินกับหูเมิ่งเตี๋ยอึดอัดใจ อ้างถึงพระคุณที่คราวก่อนหน้าเคยมอบเงินช่วยเหลือเฉินสูเหม่ยตอนตกทุกข์ได้ยาก ไฉนลืมพระคุณกันได้ เฉินสูเหม่ยอาจจะยึดคติคล้ายเติ้งเกลอผิงที่ว่า “อย่าทดแทนพระคุณส่วนตัว ด้วยผลตอบแทนของชาติ” แม้กระนั้นฉิวเมิ่งหลินกับหูเมิ่งเตี๋ยใช้คติที่ว่า “พระคุณจำต้องชดเชย โกรธแค้นจำเป็นต้องจ่าย”
เนื่องด้วยพอเพียงมีฝีมือสำหรับการเขียนบทงิ้วอยู่ ก็เลยเริ่มนำเอาบทงิ้วที่ได้รับความนิยมเรื่องหนึ่งมาเปลี่ยนแปลงให้เผ็ดร้อน แปลงเป็นงิ้วเรื่องใหม่ แล้วเตรียมพร้อมใส่ชื่อจริงละครหลักว่า เฉินซื่อเหม่ย กับฉินเซียงเหลียน ให้ชื่อบ้านิดสติไม่ดีหน่อย แม้กระนั้นเสียงใกล้เคียง พร้อมกำหนดถิ่นกำเนิดแล้วก็แบ็กกราวด์ให้ตรงกับนายเฉินสูเหม่ยเป๊ะ ส่วนถ้าหากถึงเวลาพบดุด่าพบฟ้องก็กล่าวถึงว่าชื่อเพียงแค่เหมือน มิได้ราวกับ ไม่ได้มีความแตกต่างกับสมัยปัจจุบันนี้จะดิสเครดิตกันในที่ชุมชนแล้วบอกเพียงแค่คำย่อไม่บอกชื่อ หรือบอกนามสมมุติ แล้วอ้างถึงว่ามิได้เอ่ยชื่อ ร้อนตัวไปเอง วิธีนี้มีมาแต่ว่าโบราณ บวกด้วยการเขียนละครย่อมจะต้องเติมแต่งให้ตระการตา จากเดิมที่สหายเป็นเจ้าขุนมูลนายก็ให้เป็นถึงราชลูกเขยลืมพระคุณเพื่อนพ้อง ก็เปลี่ยนเป็นลืมลูกลืมภรรยาทิ้งแม่ เมื่อยิ่งหยาบช้ายิ่งใหญ่ก็จำเป็นต้องอาศัยผู้ที่เด็ดขาดยุติธรรมมาลงอาญา
เปาบุ้นจิ้นก็เลยได้เข้ามาตัดสินโทษนี้ งิ้วเป็นที่นิยมอย่างแรง เนื่องจากตอบปัญหาอารมณ์หมั่นไส้คนชั้นสูงแล้วก็เจ้าขุนมูลนาย ยิ่งเกิดเรื่องไม่ถูกลูกไม่ถูกภรรยา ไม่ถูกขนบธรรมเนียม เนรคุณยิ่งเข้าทางราษฎรใหญ่ ทิ้งให้เฉินสูเหม่ยอารมณ์เสียรวมทั้งคนภายในหมู่บ้านเฉินสูเหม่ยแค่นั้นที่ต้านงิ้วหัวข้อนี้ ตอนหลังบุตรหลานเฉินสูเหม่ยรุ่นที่สิบเอ็ดก็เลยออกมาชี้แจงต่อสังคมว่า บรรพบุรุษของตนเองเป็นทั้งยังเจ้าขุนมูลนาย ทั้งยังผัว แล้วก็อีกทั้งบิดาที่ดี แต่ว่าถูกเอาชื่อเอาที่อยู่ไปป้ายสีในบทละคร เพราะว่าเป็นการกลับคดีของบรรพบุรุษเมื่อ 300 ปีที่ผ่านมา ก็เลยยังมีนิดหน่อยที่ยังไม่ชัดเจนกำกวม บ้างมีเนื้อหาแตกกิ่งก้านสาขา บ้างก็ค้านและก็อ้างถึงว่าชื่อเฉินซื่อเหม่ยในบทละครมีมาก่อนหน้าสมัยเจ้าขุนมูลนายเฉินสูเหม่ยเผยตัวแต่ว่าเอาเข้าจริง จู่ๆบทงิ้วข้างหลังสมัยเฉินสูเหม่ยมีตัวตน แปรไปใช้เรื่องราวรกรากเดียวกัน ใช้ชื่อเมียใกล้กับเมียเฉินสูเหม่ย ก็จัดได้ว่ามีมูลเสมือนโดนแกล้งอยู่ เฉินสูเหม่ยจากโรงแสดงละครที่โลกไปพร้อมฉินสินเหลี่ยนเมียที่อยู่กันกระทั่งอายุมากมิได้ทิ้งกันไปไหน แต่ว่าบทละคร “ประหารราชลูกเขย” ยังคงดังมาจนถึงทุกวันนี้นับเวลาได้กว่า 300 ปี
อัพเดทล่าสุด : 30 มิถุนายน 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021)